วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

SUICIDE SQUAD



SUICIDE SQUAD

แม้เป็นตัวร้ายก็มีหัวใจนะ!


เป็นอีกหนึ่งเรื่องของ จักรวาลDC ที่เราเองตั้งหน้าตั้งแต่รอคอยแบบข้ามปีกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นทีเซอร์เอย ทริลเลอร์เอย หรือแม้แต่ตัวนักแสดงที่ปล่อยๆกันออกมาเอย ทั้งหมดนี้ ถือว่ามีความน่าสนใจ และที่ขาดไปไม่ได้ คือตัวร้ายระดับตำนานอย่าง โจ๊กเกอร์ (JOKER) ที่ได้จาเร็ด เรโต้ มารับแสดงในบทนี้ สาวกเขาก็กรี๊ดกร๊าดปรอทแตกเพราะความฮ๊อต (ซึ่งอาจรวมตัวเราด้วย55555555555) รวมไปถึงที่ฮือฮาสุดๆกับ ฮาร์ลีย์ ควินน์ (HALEY QUINN) OH MY PUDDIN! ของโจ๊กเกอร์ ที่ได้ มาร์ก็อต ร็อบบี้ คนสวยมาแสดงอีกคน นอกจากนี้ ยังมี เดทช๊อต (DEATSHOT) ซึ่งเป็นตัวละครที่เราชอบมากๆอีกตัว และได้ วิลล์ สมิธ มารับบทนี้อีกด้วย

แค่ตัวละครหลักๆ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจ และกินขาดไปเกือบครึ่ง แต่ก็นั่นล่ะ มันเป็นแค่องค์ประกอบส่วนหนึ่งที่ดึงดูดเท่านั้น แก่นหลักของหนังถ้าไม่กล่าวถึงเนื้อเรื่องก็คงจะไม่ใช่
มาพูดถึงเรื่องราวคร่าวๆ ของหนังเรื่องนี้กันก่อนเลยดีกว่า เรื่องราวก็คล้ายๆกับหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไปนั่นล่ะค่ะ กลับกันตรงที่ว่า เรื่องนี้เป็นแนว แอนตี้ซุปเปอร์ฮีโร่ แทน โดยมีเรื่องย่อประมาณว่า รัฐบาลต้องการก่อตั้งโปรเจคเอ็กซ์ (Project X) เพื่อความมั่นคงของชาติ (?) และป้องกันอันตรายจากภายนอกโลก (หรือให้พูดจริงๆก็คือ เป็นตัวตายตัวแทนนั่นล่ะ555555555555) เรื่องนี้จริงๆแล้วสืบเนื่องมาจาก Batman v Superman มันมีจุดเชื่องโยงเหตุและผลของการตั้งโปรเจคนี้มานิดหน่อย แล้วก็บู้ม! เกิดเป็นทีม “SUCIDE SQUAD” ขึ้นมา


สำหรับเรื่องนี้แล้ว จุดแรกที่อยากติที่สุดคือ ใช้ตัวละครได้สิ้นเปลืองมาก โดยสิ้นเปลืองในที่นี้ของขยายความไว้ว่า ตัวละครมีเยอะเกินไป และใช้ไม่คุ้มค่าเลย แต่อันนี้พอเข้าใจ เพราะอะไรหลายๆ อย่างในข้อจำกัดของภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเวลา หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังอะไรก็ตามแต่ ทำให้เกิดข้อติตรงนี้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ มีหนังหลายเรื่องที่ก็มีลักษณะนี้เกิดขึ้น แต่ทางที่ดี ใช้ตัวละครให้คุ้มค่าหน่อยก็ดีค่ะ เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อครหาที่ว่า มีฉันไว้เพื่ออะไร เกิดขึ้น

จุดที่สองที่ทำให้รู้สึกดูแล้วไม่ค่อยบันเทิงเท่าไหร่ คงเป็นเรื่องของการเรียงลำดับเนื้อเรื่องนี่ล่ะ จำความรู้สึกตอนในอยู่ในโรงหนังได้ เพราะเกิดคำถามขึ้นในหัวทันทีว่า อะไรวะ? โดยความรู้สึกที่ดูเนี่ย มันจะมีอยู่ช่วงนึงที่อยู่ๆ มันก็โดดมาเหตุการณ์หนึ่ง แล้วก็กลับไปอีก แล้วก็บริงอิทแบค อะเกนแอ่นอะแกน แบบเนี้ย! มันทำให้รู้สึกว่า สรุปแล้วต้องการจะจี้ประเด็นไหนกันแน่คะ จุดไหนก็พ้อยท์สำคัญของเรื่องกันแน่คะ ก็นั่นล่ะค่ะ!

โดยทั้งสองจุดที่กล่าวมานี้ มันไม่ได้หมายความว่า เรื่องนี้ไม่มีข้อดี ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูแล้วบันเทิงในระดับหนึ่ง แล้วก็คิดว่าแฟนคอมมิคคงดูแล้วชื่นอกชื่นใจอย่างแน่นอน ซึ่งตัวเราเองนั้นก็อ่านคอมมิคของดีซีอยู่เช่นกัน (แต่อ่านTHE FLASHอยู่เรื่องเดียวค่ะ555555555555555) มันจะเข้าใจอารมณ์ที่ว่า ก็ในการ์ตูนมันเป็นแบบเนี้ย มันสนุกนะเว้ย ใครว่าไม่สมเหตุสมผลกัน ประมาณนี้เป็นต้น ฮ่า!


จนถึงตอนนี้ ตอนที่เรากำลังนั่งพิมพ์อยู่ เราก็พยายามนึกตลอดว่าแก่นแท้ของเรื่อง นอกจากต้องการจะสร้างเพื่อเป็นตัวเชื่อมไปยัง JUSTICE LEAGUE แล้ว มันต้องการจะบอกอะไรกับเราอีก แล้วเราก็มาสะดุดตรงสร้อยคอของฮาร์ลีย์นี่ล่ะ “PUDDIN!” (ไม่ได้หมายความว่าหิวพุดดิ้งหรืออะไรนะ) และก็นึกย้อนกลับไป มันเป็นจุดที่สังเกตให้เห็นง่ายๆแล้วนี่ล่ะ ตัวละครในเรื่องนี้(เกือบ)ทุกตัว มีจุดอ่อนกันหมด แม้จะเก่งกาจสามารถกันมาจากไหน ก็มักพ่ายกับกับความรู้สึกของตัวเอง จุดอ่อนของฮาร์ลีย์ก็คือโจ๊กเกอร์ เพราะอะไรโจ๊กเกอร์จึงกลายเป็นจุดอ่อน ก็เพราะ รัก คำเดียวล้วนๆค่ะ ไม่ต้องบอกว่าน้ำเน่าค่ะ มันคือเรื่องจริงค่ะ ความรู้สึกของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ฮาร์ลีย์อาจจะเป็นคนโรคจิตในสายตาคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารู้สึกไม่เป็น ซึ่งในทางเดียวกัน เดทช็อตก็เช่นกัน แม้จะไม่ใช่ความรักที่เกิดขึ้นเชิงชู้สาวแบบฮาร์ลีย์และโจ๊กเกอร์ แต่ก็เป็นความรักที่ให้กับคนในครอบครัวอย่างลูกสาว ดังนั้น ลูกสาวจึงกลายเป็นจุดอ่อนไป ดังนั้น สรุปไว้ตรงนี้ ถึงจะเลวแต่ก็รักเป็นค่ะ (ฮิ้ววววววววววววววว!)

          ทั้งนี้ SUICIDE SQUAD แม้จะโดนวิจารณ์แบบยับเยินและส่วนมากเป็นไปทางลบ แต่นั้นไม่ได้แปลว่าเป็นหนังที่ห่วยแตก หรืออะไร สำหรับเรามันก็ดีอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ติดว่าทำตัวเยอะจนเกินไป มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า หนังเรื่องต่อไปของจักรวาลดีซีจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆไป จะเป็นกำลังไตให้ตรงนี้ล่ะค่ะ ด้วยรัก