จากเด็กหญิงอายุสิบหกธรรมดา
สู่เด็กหญิงผู้มากับไฟ
และกลายเป็นม็อกกิ้งเจย์ สัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติ
.
.
.
.
.
.
สำหรับหนังภาคต่ออย่าง
Mockingjay Part 1 แน่นอนว่ากระแสตอบรับก็ย่อมมีทั้งดีและไม่ดี จากที่ไปบุกพันทิป
และทวิตเตอร์ ได้ความเห็นมาอย่างล้นหลามกับหนังภาคต่อในเรื่องนี้ ซึ่งเราสามารถ
สรุปแบบคร่าวๆได้ว่า เน้นเรื่องรักมากไป ดำเนินเรื่องยืดเยื้อ ฉากแอคชั่นไม่สุด และเน้นสงครามประสาทมากกว่า
ดึงเอาเนื้อเรื่องของสองภาคแรกมาเฉลยอีกทีหนึ่ง และดรอปลงจากสองภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งทั้งหมดที่เรากล่าวมานั้น
มันคือความคิดเห็นของคนอื่นนะ ไม่ใช่ของเรา ซึ่งสำหรับเรา
แนวนี้คือแนวของเราอยู่แล้ว ดิสโทเปียคือสิ่งที่หลังรักรองจากของกินเลยแก ฮ่าๆ หลังจากที่ดูจบ
หลายคนก็เดินบ่นออกมาจากโรงหนังว่า มันไม่สนุก มันไม่สุด จบแย่มาก บลาๆๆ แต่ตัวเราเองก็ทำใจตั้งแต่หนังมันสร้างออกมาแล้วแบ่งพาร์ทแล้วล่ะ
เพราะเราก็มีบทเรียนมาตั้งแต่ Harry
Potter และ Twilight แล้ว การแบ่งพาร์ท มันนำมาซึ่ง
ความยืดเยื้อในการดำเนินเรื่องอย่างแน่นอน
แต่สำหรับเราในฐานะที่เราอ่าน
The
Hunger Games Series ทั้ง 3 เล่ม แล้วเราเป็นคนที่ชอบ เก็บรายละเอียดจากหนังสือไปเทียบกับหนัง
ซึ่งในหนังภาคนี้เสริมเรื่องนอกเหนือจากหนังสือเข้าไปอีก และเก็บรายละเอียดของหนังสือได้เยอะพอสมควรเลย ใครที่อ่านหนังสือจะรู้เลยว่า ภาคนี้เป็นการปูทาง ให้สำหรับสงครามที่จะเกิดขึ้นต่อในพาร์ทที่สอง ซึ่งภาคนี้อยากบอกว่าแม้เนื้อเรื่องจะยืดเยื้อน่าเบื่อ แต่ปูทางสู่พาร์ทสองได้อย่างสง่างาม ผนวกกับ เจนนิเฟอร์ ลอว์เร้นท์ที่แสดงเป็น
แคตนิส เอเวอร์ดีน เด็กสาวผู้มากับไฟ ซึ่งต้องบอกเลยว่า นางตีบทแตกมาก อินกับบทบาทตลอดทั้งเรื่อง
แคตนิส เอเวอร์ดีน เด็กสาวผู้มากับไฟ ซึ่งต้องบอกเลยว่า นางตีบทแตกมาก อินกับบทบาทตลอดทั้งเรื่อง
คือเวลาอ่านหนังสือ
เคยอินกับตัวละครนั้นมากๆไหม ประหนึ่งว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นเลย ซึ่งในหนังสือมันเขียนอธิบายอารมณ์เอาไว้หมด
เรารู้ว่าตัวละครตัวนี้เขานึกเขาคิดอะไรอยู่ แต่สำหรับในหนังมันไม่มีอะไรที่จะมาบรรยายความรู้สึกของตัวละครนั้นๆ แล้วหนังอย่างม็อกกิ้งเจย์นี่ก็ไม่ใช่ละครไทยไงแก
ที่ตัวละครจะเดินๆแล้วก็ พูดแม่งคนเดียว คือมันไม่ใช่ !
แต่เจนนิเฟอร์
ลอว์เร้นท์แสดงออกมาทำให้เรารู้สึกว่าเขาเจ็บปวดกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา
ทั้งสีหน้า
และการแสดงของเขา
ทำให้เรารู้สึกอินตามอย่างรุนแรงเลยนะ แล้วยิ่งภาคนี้
เน้นเรื่องสงครามประสาทกับจิตวิทยาหน่อยๆ มันเป็นอะไรที่ทำให้เราขนลุกตลอดเลย ยิ่งฉากที่แคตนิส
ร้องเพลง The Hanging Tree บอกเลยว่า
ตอนอ่านหนังสืออินกับเนื้อเพลงยังไง ในหนังเราอินยิ่งกว่า
อาจจะเป็นเพราะซาวด์ดนตรีที่มันกระตุ้นให้เรารู้สึกว่ามันทรงพลัง มันฮึกเหิ้มมากเลยทีเดียว
จริงๆแล้วอยากได้เพลงนี้มากนะ แต่คงต้องรอให้ผ่านไปซักพัก คงมีคนอัดเพลงแบบเต็มๆ แล้วเป็นเวอร์ชั่นที่เจนนิเฟอร์ร้องมาปล่อยนั่นล่ะ ฟังแล้วชอบ ฟังแล้วติดหูมาก ขอสปอยซักท่อนสองท่อนแล้วกันนะคะ ใครสนใจฟังลองไปเสิร์ชหาในยูทูปได้ มีให้ฟังหลายเวอร์ชั่นเลย แต่เราชอบเวอร์ชั่นที่อยู่ในหนังมากจริงๆ J
“Are you, are you coming to the tree
Where they strung up a man they say murdered three.
Strange things did happen here
No stranger would it seem
If we met up at midnight in the Hanging Tree.”
Where they strung up a man they say murdered three.
Strange things did happen here
No stranger would it seem
If we met up at midnight in the Hanging Tree.”
-- The hanging tree from Mockingjay
กลับเข้ามาในเรื่องของเนื้อเรื่องของภาคนี้
สำหรับเราภาคนี้มันยืดเยื้ออย่างที่หลายๆคนบอกไว้จริง การดำเนินเรื่องเป็นการนำเอาเรื่องของสองภาคก่อนนั้นมาเฉลย
แต่ดูแล้วขัดอารมณ์ตอนของ ฟินิคนั้นมาเฉลยเรื่องที่เป็นความลับของสโนว์
คือฉากในหนังมันตัดไปตัดมา อารมณ์แบบถ้าฉัน ไม่ได้อ่านหนังสือนี่
จับประเด็นแทบไม่ได้เลยนะ (เป็นแค่เรานะ คนอื่นเราไม่รู้ ฮ่าๆ)
แต่โดยรวมคือเราประทับใจ
ประทับใจที่เจนนิเฟอร์ตีบทแคตนิสจนเราอินแล้วร้องไห้ตามได้เลย และอีกอย่างหนึ่งคือ
ในภาคนี้เน้นดราม่าซะเป็นส่วนใหญ่ ใครที่หวังอยากได้ฉากแอคชั่นแบบเอามัน อย่างสองภาคแรกคงต้องตอบว่า
ไม่มีให้ดูนะแก มีแค่นิดเดียว แล้วก็คงจะไม่สุดใจพวกคอหนังแอคชั่นด้วย
เอาละ
สำหรับเราหนังเรื่องนี้ให้คะแนนอยู่ที่ 8 / 10 อย่างที่บอก
หนังยืดเยื้อเพราะแบ่งพาร์ทนั่นล่ะเหตุผลการตลาดล้วนๆ
ไม่มีอะไรมาผสม ไม่สามารถอ้างได้ว่าเพราะต้องการที่จะเก็บรายละเอียดจากหนังสือ เพราะในหนังสือจากที่อ่านมาแล้ว
พาร์ทเดียวก็เหลือแหล่แล้วแกเอ๋ยยยยยยยย
วุ้ยๆๆๆ
โอเคค่ะ
วันนี้พอเท่านี้ล่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ บัยยยย ♥
Next
station -- The Hobbit : The Battle of the Five Armies
PS. -- หนังเรื่องนี้ไม่ขอวิเคราะห์อะไรใดๆทั้งสิ้นนะคะ เห้!
PS. -- หนังเรื่องนี้ไม่ขอวิเคราะห์อะไรใดๆทั้งสิ้นนะคะ เห้!
UPDATE 23.11.2014 มีคนปล่อยเพลง The Hanging Tree แบบเต็มๆมาเรียบร้อยแล้วค่ะเลยเอามาแปะในบล็อกก่อนเลย
ชอบมากๆสำหรับเพลงนี้ ถึงกับซิงค์ลงไอโฟนมานั่งฟังเลยนะ ฟังแล้วนี่จะร้องไห้
โคตรฮึกเหิ้มเลย ประหนึ่งจะไปกู้ชาติ เห้!
\( `.∀´)/

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น