วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

FURY!

อะไรคือ Sherman อะไรคือ Tiger แล้วอเมริกามันเป็น Tiger Phobia กันด้วยหรอวะเนี่ย!
.
.
.


วันนี้ก็ได้ไปดูหนังเรื่อง FURY มาแล้วละค่ะ ก็ไปดูแบบมึนๆงงๆเหมือนกัน เพราะเพื่อนชวนไปก็ไป
ปกติแล้ว หนังแนวอิงประวัติศาสตร์แบบนี้จะไม่ค่อยชอบดูเท่าไหร่ แต่ในเมื่อมาดูแล้วก็ดูเถอะค่ะ
จริงๆ เห็นในพันทิป ถกเกี่ยวกับเรื่องของรถถังในหนังเรื่องนี้ ซึ่งเอาจริงนี่ไม่มีความรู้อะไรด้านนี้เลย
แต่พออ่านหลายๆคอมเม้นท์ก็เลยเริ่มรู้เรื่องขึ้นมานิดหน่อย จนเจอคอมเม้นท์หนึ่งที่พูดถึงเรื่อง
“Tiger Phobia” เห้ยยยย! มันน่าสนใจอ่ะ มันเป็นชื่อเคสหนึ่งทางจิตวิทยาที่ว่า ทหารของอเมริกา
นั้นจะเป็นพอได้ยินชื่อของรถถัง ซึ่งก็คือ Tiger นี้ ก็จะกลัวสั่นหวั่นไหวกันไป เพราะว่ามันโหดมากๆ
เออออออ จริงๆเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวไรกับหนังหรอก แต่พออ่านเจอรู้สึกมันน่าสนใจดี ฮ่าๆ



คำเตือน -- มีสปอยตอนจบของเรื่อง

มาเข้าเรื่องกันดีกว่า หนังเรื่องนี้ก็เล่าย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งดำเนินเรื่องออกมา
คือทหารอเมริกากลุ่มหนึ่งนั้นเข้าไปสู้รบในเยอรมันกับพวกนาซี โดยส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถือว่าดีเลยทีเดียว
เป็นหนังสองชั่วโมงที่เล่าเนื้อเรื่องได้กระชับเลย และที่ชอบมากที่สุดคือเรื่องของภาพที่นำเสนอออกมา
ซึ่งในหนังเรื่องนี้จะให้อารมณ์เทาๆในแบบของสงครามได้ดี ลองจินตนาการถึงภาพคนตาย คนรบกัน
สู้กัน หรือยิงกัน แน่นอนว่าอารมณ์ที่แฝงมากับสถานการณ์แบบนี้มันหม่นหมองคล้ายกับสีเทา
แล้วในหนังเรื่องนี้ก็ให้อารมณ์ทางภาพแบบนี้เลย ในตัวภาพมันจะเป็นโทนสีคล้ายๆไปกันหมด
ซึ่งก็คือโทนสีเทา และมันสีเทาในทั้งภาพ และสีเทาในทั้งอารมณ์

มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วถ้าเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์เช่นนี้มันย่อยมีเรื่องของอุดมการณ์แฝงมาอย่างแน่นอน
ซึ่งใน FURY นั้น ไม่ต้องวิเคราะห์ให้มากความก็จะเห็นในเรื่องของอุดมการณ์ความรักชาติที่ผ่านมา
กับหนังอย่างเด่นชัด อย่างทหารอเมริกาสู้ตัวตายก็เพื่อประเทศของตัวเอง
ซึ่งในหนังเรื่องนี้ไม่ได้บอกที่มาที่ไปไว้อย่างแน่ชัดว่าสู้กับนาซีเพราะเหตุอันใด แต่สิ่งที่สื่อออกมาให้เห็นก็คือ
ต้องทำลายพวกนาซี เพราะนาซีมันเลว อ่าห๊ะ! และแล้วนอกจากอุดมการณ์ที่แฝงมากับหนังเช่นนี้
ยังมีวาทกรรมหนึ่งที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครอย่างกลุ่มทหารอเมริกา และวาทกรรมชุดนั้นก็คือ นาซีเลว
ซึ่งในตัวหนังก็ไม่ได้บอกอีกว่า ทำไมอเมริกาถึงได้บอกว่านาซีเลว (อันนี้คงต้องไปคุ้ยประวัติศาสตร์อ่านกันเอง)
แต่เป็นเพียงแค่ว่า วาทกรรมมันถูกผลิตออกมาเพื่อสร้างเป็นความจริงให้กลุ่มทหารอเมริกาได้รับรู้และเชื่อว่า
นาซีนี้มันเลว มันชาติชั่ว ดังนั้นแล้วต้องฆ่ามัน ! นั่นละคือสิ่งที่ในหนังนี้นำเสนอออกมา

นอกจากนี้แล้ว ในหนังเรื่องนี้ยังมีวาทกรรมชุด วีรบุรุษแฝงมากับในเนื้อเรื่องเอาไว้
แม้ในช่วงดำเนินเรื่องแรกๆ จะไม่ได้บอกไว้อย่างเด่นชัดในวาทกรรมชุดนี้ แต่ในช่วงสุดท้ายของเรื่องนั้น
มันเหมือนกับการเฉลยวาทกรรมชุดนี้ออกมา ในตอนที่ตัวของนอร์แมนนั้นเป็นผู้รอดเพียงหนึ่งเดียวจาก
การสู้รบ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ เพราะเนื่องจาก เขาสู้จนนาทีสุดท้าย สู้เพื่อประเทศชาติ
และเป็นบุคคลเดียวที่สามารถรอดมาได้จากการสู้รบในครั้งนั้น นี่ละวีรบุรุษที่นำเสนอผ่านออกมาในหนังเรื่องนี้
ทั้งนี้แล้ว วีรบุรุษในที่นี้ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษเกินกว่าคนอื่น แต่เป็นเพียงแค่ว่า ทำเพื่อประเทศชาติ
สู้เพื่อประเทศตัวเอง สิ่งนี้ก็ยกย่องเขาให้กลายเป็นวีรบุรุษได้แล้ว ในทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่ตัวของนอร์แมน
แค่คนเดียวที่ถือว่าเป็นวีรบุรุษ แต่คนอื่นๆ ทหารอเมริกาที่สู้รบเพื่อชาติของตัวเองก็ถือว่าเป็นวีรบุรุษได้เช่นกัน
แม้ในหนังจะไม่กล่าวถึงไว้อย่างตรงๆ แต่เราก็สามารถรับรู้ และยกย่องเขาเหล่านั้นว่าเป็นวีรบุรุษ

อ่า.. ขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 8.5/10 ค่ะ ดำเนินเรื่องดี เนื้อเรื่องกระชับ แม้ทั้งเรื่องจะมีแค่เรื่องของสงคราม
แต่ก็ตื่นเต้นได้ตลอดเวลา แต่ก็มีบางส่วนที่โอเวอร์ไปนิด ตัวละครตายช้า แล้วพอจะตายทีก็ตายแบบบู้มเดียวจบ
แต่โดยรวมคือโอเคเลยค่ะ สนุกดี นักแสดงแซ่บ(?) จริงๆเรื่องนี้เอานักแสดงแต่ละคนมานี่คือดีงามมากนะ
โอ้โห้ ฟินเฟร้อ55555555555555555555

ปล. – ทั้งหมดที่เล่าและวิเคราะห์มานี้หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ


บัยยยยย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น