อะไรคือ
Sherman
อะไรคือ Tiger แล้วอเมริกามันเป็น Tiger
Phobia กันด้วยหรอวะเนี่ย!
.
.
.
.
.
วันนี้ก็ได้ไปดูหนังเรื่อง
FURY
มาแล้วละค่ะ ก็ไปดูแบบมึนๆงงๆเหมือนกัน เพราะเพื่อนชวนไปก็ไป
ปกติแล้ว
หนังแนวอิงประวัติศาสตร์แบบนี้จะไม่ค่อยชอบดูเท่าไหร่
แต่ในเมื่อมาดูแล้วก็ดูเถอะค่ะ
จริงๆ
เห็นในพันทิป ถกเกี่ยวกับเรื่องของรถถังในหนังเรื่องนี้
ซึ่งเอาจริงนี่ไม่มีความรู้อะไรด้านนี้เลย
แต่พออ่านหลายๆคอมเม้นท์ก็เลยเริ่มรู้เรื่องขึ้นมานิดหน่อย
จนเจอคอมเม้นท์หนึ่งที่พูดถึงเรื่อง
“Tiger
Phobia” เห้ยยยย! มันน่าสนใจอ่ะ
มันเป็นชื่อเคสหนึ่งทางจิตวิทยาที่ว่า ทหารของอเมริกา
นั้นจะเป็นพอได้ยินชื่อของรถถัง
ซึ่งก็คือ Tiger นี้ ก็จะกลัวสั่นหวั่นไหวกันไป
เพราะว่ามันโหดมากๆ
เออออออ
จริงๆเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวไรกับหนังหรอก แต่พออ่านเจอรู้สึกมันน่าสนใจดี ฮ่าๆ
คำเตือน -- มีสปอยตอนจบของเรื่อง
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
หนังเรื่องนี้ก็เล่าย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งดำเนินเรื่องออกมา
คือทหารอเมริกากลุ่มหนึ่งนั้นเข้าไปสู้รบในเยอรมันกับพวกนาซี
โดยส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถือว่าดีเลยทีเดียว
เป็นหนังสองชั่วโมงที่เล่าเนื้อเรื่องได้กระชับเลย
และที่ชอบมากที่สุดคือเรื่องของภาพที่นำเสนอออกมา
ซึ่งในหนังเรื่องนี้จะให้อารมณ์เทาๆในแบบของสงครามได้ดี
ลองจินตนาการถึงภาพคนตาย คนรบกัน
สู้กัน
หรือยิงกัน แน่นอนว่าอารมณ์ที่แฝงมากับสถานการณ์แบบนี้มันหม่นหมองคล้ายกับสีเทา
แล้วในหนังเรื่องนี้ก็ให้อารมณ์ทางภาพแบบนี้เลย
ในตัวภาพมันจะเป็นโทนสีคล้ายๆไปกันหมด
ซึ่งก็คือโทนสีเทา
และมันสีเทาในทั้งภาพ และสีเทาในทั้งอารมณ์
มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วถ้าเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์เช่นนี้มันย่อยมีเรื่องของอุดมการณ์แฝงมาอย่างแน่นอน
ซึ่งใน
FURY
นั้น
ไม่ต้องวิเคราะห์ให้มากความก็จะเห็นในเรื่องของอุดมการณ์ความรักชาติที่ผ่านมา
กับหนังอย่างเด่นชัด
อย่างทหารอเมริกาสู้ตัวตายก็เพื่อประเทศของตัวเอง
ซึ่งในหนังเรื่องนี้ไม่ได้บอกที่มาที่ไปไว้อย่างแน่ชัดว่าสู้กับนาซีเพราะเหตุอันใด
แต่สิ่งที่สื่อออกมาให้เห็นก็คือ
ต้องทำลายพวกนาซี
เพราะนาซีมันเลว อ่าห๊ะ! และแล้วนอกจากอุดมการณ์ที่แฝงมากับหนังเช่นนี้
ยังมีวาทกรรมหนึ่งที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครอย่างกลุ่มทหารอเมริกา
และวาทกรรมชุดนั้นก็คือ “นาซีเลว”
ซึ่งในตัวหนังก็ไม่ได้บอกอีกว่า
ทำไมอเมริกาถึงได้บอกว่านาซีเลว (อันนี้คงต้องไปคุ้ยประวัติศาสตร์อ่านกันเอง)
แต่เป็นเพียงแค่ว่า
วาทกรรมมันถูกผลิตออกมาเพื่อสร้างเป็นความจริงให้กลุ่มทหารอเมริกาได้รับรู้และเชื่อว่า
นาซีนี้มันเลว
มันชาติชั่ว ดังนั้นแล้วต้องฆ่ามัน ! นั่นละคือสิ่งที่ในหนังนี้นำเสนอออกมา
นอกจากนี้แล้ว
ในหนังเรื่องนี้ยังมีวาทกรรมชุด “วีรบุรุษ” แฝงมากับในเนื้อเรื่องเอาไว้
แม้ในช่วงดำเนินเรื่องแรกๆ
จะไม่ได้บอกไว้อย่างเด่นชัดในวาทกรรมชุดนี้ แต่ในช่วงสุดท้ายของเรื่องนั้น
มันเหมือนกับการเฉลยวาทกรรมชุดนี้ออกมา
ในตอนที่ตัวของนอร์แมนนั้นเป็นผู้รอดเพียงหนึ่งเดียวจาก
การสู้รบ
เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษ เพราะเนื่องจาก เขาสู้จนนาทีสุดท้าย
สู้เพื่อประเทศชาติ
และเป็นบุคคลเดียวที่สามารถรอดมาได้จากการสู้รบในครั้งนั้น
นี่ละวีรบุรุษที่นำเสนอผ่านออกมาในหนังเรื่องนี้
ทั้งนี้แล้ว
วีรบุรุษในที่นี้ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษเกินกว่าคนอื่น แต่เป็นเพียงแค่ว่า
ทำเพื่อประเทศชาติ
สู้เพื่อประเทศตัวเอง
สิ่งนี้ก็ยกย่องเขาให้กลายเป็นวีรบุรุษได้แล้ว ในทั้งหมดนี้
ไม่ใช่แค่ตัวของนอร์แมน
แค่คนเดียวที่ถือว่าเป็นวีรบุรุษ
แต่คนอื่นๆ ทหารอเมริกาที่สู้รบเพื่อชาติของตัวเองก็ถือว่าเป็นวีรบุรุษได้เช่นกัน
แม้ในหนังจะไม่กล่าวถึงไว้อย่างตรงๆ
แต่เราก็สามารถรับรู้ และยกย่องเขาเหล่านั้นว่าเป็นวีรบุรุษ
อ่า.. ขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 8.5/10 ค่ะ ดำเนินเรื่องดี
เนื้อเรื่องกระชับ แม้ทั้งเรื่องจะมีแค่เรื่องของสงคราม
แต่ก็ตื่นเต้นได้ตลอดเวลา
แต่ก็มีบางส่วนที่โอเวอร์ไปนิด ตัวละครตายช้า แล้วพอจะตายทีก็ตายแบบบู้มเดียวจบ
แต่โดยรวมคือโอเคเลยค่ะ
สนุกดี นักแสดงแซ่บ(?) จริงๆเรื่องนี้เอานักแสดงแต่ละคนมานี่คือดีงามมากนะ
โอ้โห้
ฟินเฟร้อ55555555555555555555
ปล. –
ทั้งหมดที่เล่าและวิเคราะห์มานี้หากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ
บัยยยยย ♥
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น